รำฉุยฉายวันทอง
ความเป็นมา
ฉุยฉายวันทอง อยู่ในการแสดงละคร เรื่อง "ขุนช้างขุนแผน ตอนพระไวยแตกทัพ " เนื้อเรื่องกล่าวถึง ขุนแผนแค้นใจพระไวยผู้เป็นบุตรชาย ที่ไปหลงเสน่ห์นางสร้อยฟ้า จึงคบคิดกับพลายชุมพลบุตรชายอันเกิดจากนางแก้วกิริยาธิดาเจ้าเมืองสุโขทัย นัดแนะให้พลายชุมพลปลอมตัวเป็นมอญใหม่ และผูกหุ่นฟางเสกเป็นไพร่พลมอญยกทัพ เพื่อมาตีกรุงศรีอยุธยา โดยพลายชุมพลยกเข้ามาตั้งค่ายอยู่ ณ ตำบลเดิทบาง ครั้นพระพันวษาได้ทรงทราบก็ตรัสสั่งให้ขุนแผนกับเจ้าเมืองสุพรรณบุรี ร่วมกันยกทัพไปปราบปราม ขุนแผนกับเจ้าเมืองสุพรรณบุรี ร่วมกันยกทัพไปตั้งค่ายรับอยู่ ณ ตำบลนางบวช (ใต้ตำบลเดิมบางลงมา) แล้วขุนแผนกับพลายชุมพลต่างก็ใช้อุบายติดต่อให้สัญญากัน พอตกกลางคืนตอนใกล้รุ่ง พลายชุมพลจึงยกทัพหุ่นเข้าตีค่ายของขุนแผนและเจ้ามืองสุพรรณบุรี ขุนแผนทำทีขี่ม้าเข้าต่อสู้ตีฝ่าข้าศึก แล้วทำเป็นเพลี้ยงพล้ำให้ข้าศึกจับตัวไปได้ ครั้นกองทัพเจ้าเมืองสุพรรณบุรีเห็นขุนแผนถูกจับไป กองทัพก็แตกพ่าย กลับมาทูลข่าวแด่พระพันวษา ด้านขุนแผนกับพลายชุมพลก็เคลื่อนกองทัพหุ่นยกล่วงมาตั้งอยู่ ณ ชายป่าในเขตบ้านตาลาน ชานกรุงศรีอยุธยา พระพันวษาออกว่าราชการ ทรงทราบเรื่องกองทัพมอญใหม่ที่จับตัวขุนแผนไป ทรงกริ้วมากตรัสสั่งให้ไปตามเจ้าหมื่นไวยวรนารถ หัวหมื่นมหาดเล็ก ลูกชายของขุนแผนมา เมื่อเจ้าหมื่นไวยวรนารถรู้เรื่องก็ตกใจ จึงรีบรับอาสาทันที เส้นทางที่กองทัพพระไวยจะผ่านไปนั้น เป็นป่าเปลี่ยว นางวันทองแม้มีความผิดต้องประหารชีวิตไปตามพระราชโองการของพระพันวษาแล้วแต่ด้วยความรักอาลัยต่อพระไวยผู้เป็นบุตร เมื่อรู้ว่าพระไวยจะยกกองทัพผ่านมาทางนี้ จึงสำแดงร่างอสุรกายให้ปรากฏ แล้วแปลงร่างเป็นนางงามขับร้องเพลงเล่นชิงช้าคอยทีอยู่ใต้ต้นไทรใหญ่ เมื่อพระไวยผ่านมาก็ได้ยินเสียงขับร้องของสตรี จึงสั่งให้หยุดกองทัพ แล้วลงจากม้าเดินไปตามเสียง ก็พบนางงามรุ่นเจริญวัย กำลังเล่นชิงช้าและขับร้องเพลงอยู่ อย่างสบายใจ พระไวยจึงเดินเข้าไปหาและเกี้ยวพาราสี
รูปแบบ และลักษณะการแสดง
ฉุยฉายวันทอง เป็นการแสดงความงดงามของหญิงสาว แต่งตัวสวยเพื่อจะไปหาบุตรชาย แต่บุตรชายกลับมาหลงรัก ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง นางจึงกลับร่างเป็นอสุรกายดังเดิม การรำแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 รำสอดสร้อยออกในเพลงรัวแล้วป้องหน้า
ขั้นตอนที่ 2 รำตีบทตามคำร้องฉุยฉาย และแม่ศรี
ขั้นตอนที่ 3 รำเข้าตามทำนองเพลงเร็ว – ลา
เครื่องแต่งกาย
ผู้แสดงแต่งกายห่มสไบผ้าตาดทองลายม่วง นุ่งผ้าจีบหน้านางสีม่วง ตามบทประพันธ์ ศิราภรณ์กระบังหน้า
ดนตรี และเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง
ใช้วงปี่พาทย์ไม้แข็ง
เพลงที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดง ได้แก่เพลงรัว เพลงฉุยฉาย เพลงแม่ศรี เพลงเร็ว (คุดระนาดเหยียบกรวด) และเพลงลา บทร้องมีด้วยกันหลายสำนวนดังนี้
บทร้องฉุยฉายวันทองสำนวนที่ 1
ร้องฉุยฉาย
ฉุยฉายเอย สาวน้อยน่าเอ็นดูอสูรกาย
นิมิตเหมือนเดือนหงาย ยวนใจชายให้แช่มชื่น
ผิวพรรณชันษาสิบห้าศก เห็นตาเห็นอกสะทกเหลือฝืน
เอิบอารมณ์แทบจะล้มทั้งยืน ผิดนารีอื่นเอนกเอย
ฉุยฉายเอย โฉมวันทองเปรตแปรเพศแปลงกาย
นุ่งม่วงขาบเฟื้อยเปลือยชาย สอดสวมสนอบขาวสยายโมฬีฟู
พวงมาลีวงเกศีเฉวียงไหล่ ทัดดอกกล้วยไม้วิไลหรู
งามแพรห้อยห่มสีชมพู สร้อยวลัยเพชรตรูตาเอย
ร้องแม่ศรี
วันทองเอย วันทองแปลงโฉม
น่ารักน่าบรรโลม น่าตะโบมชื่นใจ
เที่ยวเก็บมาลีที่หอมหอม ดั้นไพรพนอมจะไปไหน
ทั้งดอกทั้งช่อห่อสไบ ให้เห็นอยากได้ดมเอย
นางนิมิตเอย นางนิมิตรูปน้อย
โฉมฉายชม้ายชม้อย กะจ้อยร่อยสำเริงเหล่ง
โอ๊ยนั่งรากไทรไกวชิงช้า ดูแน้ดวงหน้าเจ้ายิ้มแฉ่ง
จะตกลงเน้อย่างเพ่อแกว่ง สงสารเจ้าแน่งน้อยเอย
บทร้องฉุยฉายวันทองสำนวนที่ 2
ร้องฉุยฉาย
ฉุยฉายเอย เจ้าช่างจำแลงแปลงกายงามคล้ายบุษบา
หน้าเป็นใยเหมือนไข่ปอก เจ้าทัดแต่ดอกจำปา
โอ้พระไวยสายใจ อีกสักเมื่อไรจึงจะมา
ฉุยฉายเอย เยื้องย่างเจ้าช่างกรายลอยชายมาในดง
รู้ว่าพ่อไวยจะไปทัพ แม่มาคอยรับคอยส่ง
ชะกระไรหน้อใจบิดา จะแกล้งฆ่าให้ปลดปลง
ร้องแม่ศรี
แม่ศรีเอย แม่ศรีสาคร
ร่างเจ้าเอี่ยมอรชร เหมือนกินนรไกรลาส
ใส่กรอบพักตร์ประดับเพชร บั้นเอวเจ้าจะเด็ดขาด
จมื่นไวยใจสวาท ด้วยโฉมประหลาดตาเอย
แม่ศรีเอย แม่ศรีสาวหงส์
เยื้องย่างมากลางดง เหมือนหนึ่งหงส์เหมราช
ผิวเจ้างามเมื่อยามพิศ งามจริตเมื่อยามผาด
อ่อนระทวยนวยนาด เยื้องยาตรมาเอย
ปี่พาทย์ทำเพลงเร็ว – ลา
บทร้องฉุยฉายวันทอง สำนวนที่ 3
ฉุยฉายเอย วันทองเปรตแปลงเพศปอมกาย
เยื้องย่างเจ้าช่างกรีดกราย ทำกระแอมกระไอให้ชายเห็นหน้า
รุ่นราวขาวสะอาดเดินลีลาศไคลคลา ถ้าใครเห็นหน้าแทบเป็นบ้าใจเอย
ร้องแม่ศรี
วันทองเอย วันทองแปลงโฉม
น่ารักตะโบม น่าประโลมให้ชื่นใจ
เที่ยวเก็บมาลีที่ในป่า เอาใส่ห่อผ้าจะไปข้างไหน
ทั้งดอกทั้งช่อเจ้าห่อสไบ ใครเห็นอยากได้ดมเอย
ปี่พาทย์ทำเพลงเร็ว - ลา
บทร้องฉุยฉายวันทอง สำนวนที่ 4
ร้องฉุยฉาย
ฉุยฉายเอย เสร็จจำแลงแปลงกายเยื้องกายมาในป่า
โอ้พระไวยสายใจ อีกสักเมื่อไรจึงจะมา
แลลอดสอดหา เดินไปคอยท่าทางโน้นเอย
ร้องแม่ศรี
แม่ศรีเอย แม่ศรีเสาหงส์
เยื้องย่างมากลางดง เหมือนหนึ่งหงส์เหมราช
ผิวเจ้างามเมื่อยามพิศ งามจริตเมื่อยามผาด
อ่อนระทวยนวยนาฎ ลีลาศมาเอย
ปี่พาทย์ทำเพลงเร็ว – ลา
วีดีโอประกอบการแสดง
ที่มา ; https://www.youtube.com/watch?v=Nf7wfyfdPVs
ที่มา ; https://www.youtube.com/watch?v=U6R5XQ2tEK4
วันทองแต่งตัว
ความเป็นมา
วันทองแต่งตัว-ฉุยฉายวันทอง เป็นการแสดงที่อยู่ในละครเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” ตอน “พระไวยแตกทัพ” เนื้อเรื่องย่อมีดังนี้
สมเด็จพระพันวษามีราชโองการ ใช้ให้พระไวยยกกองทัพไปรบกับพวกมอญใหญ่ ซึ่งที่แท้ก็คือพลายชุมพล น้องต่างมารดาของพระไวยที่ปลอมตัวมา โดยอุบายของขุนแผนผู้เป็นพ่อซึ่งโกรธแค้นพระไวยที่ไปหลงเสน่ห์นางสร้อยฟ้า (ถูกทำเสน่ห์) ระหว่างที่ยกทัพมาในป่า นางวันทองผู้เป็นแม่ซึ่งตายไปเป็นเปรตต้องการที่จะบอกเรื่องให้พระไวยทราบ ครั้นจะมาปรากฎตัวในสภานนั้นก็เกรงว่าลูกชายจะกลัวจึงแปลงเป็นสาวงามไปดักพบพระไวย
บทร้อง วันทองแต่งตัว
ปี่พาทย์ทำเพลงรัว
นวลละอองผ่องศรีฉวีขาว พึ่งแรกรุ่นรูปราวกับนางห้าม
มวยกระหมวดกวดเกล้าเหมือนเจ้าพราหมณ์ ใส่สังวาลย์ประจำยามประดับพลอย
เอ็นดูใส่ต่างหูระย้าเพชร แต่ละเม็ดสุกยิ่งกว่าหิ่งห้อย
ใส่แหวนงูมรกตชดช้อย สวมสร้อยปะวะหล่ำกำไล
นุ่งสังเวียนพื้นม่วงดวงทอง ห่มตาลลำยองผ่องใส
ใส่กรอบพักตร์วิเชียรเจียรนัย ทัดดอกไม้พวงเพชรเม็ดพราย
กำไลเท้าทองปลั่งทั้งคู่ แลดูงามเลิศเฉิดฉาย
เยื้องย่างยุรยาตรนาฎกราย ร้องฉุยฉายเสียงเฉื่อยระเรื่อยมา
ร้องฉุยฉาย
ฉุยฉายเอย เจ้าช่างจำแลงแปลงกายคล้ายบุษบา
หน้าเป็นใยเหมือนไข่ปอก เจ้าทัดแต่ดอกจำปา
โอ้พระไวยสายใจ อีกสักเมื่อไรจึงจะมา
ฉุยฉายเอย เยื้องย่างเจ้าช่างกรายลอยชายมาในดง
รู้ว่าพ่อไวยจะไปทัพ แม่มาคอยรับคอยส่ง
ชะกระไรหนอใจบิดา จะแกล้งฆ่าให้ปลดปลง
ร้องแม่ศรี
แม่ศรีเอย แม่ศรีสาคร
ร่างเจ้าเอี่ยมอรชร เหมือนกินนรไกรลาศ
ใส่กรอบพักตร์ประดับเพชร บั้นเอวเจ้าจะเด็ดขาด
พระหมื่นไวยจวนใจสวาท ด้วยโฉมประหลาดตาเอย
แม่ศรีเอย แม่ศรีเสาหงส์
เยื้องย่างมากลางดง เหมือนหนึ่งหงส์เหมราช
ผิวเจ้างามเมื่อยามพิศ งามจริตเมื่อยามผ่าน
อ่อนระทวยนวยนาฎ เยื้องยาตรมาเอย
ปี่พาทย์ทำเพลงเร็วลา
วีดีโอประกอบการแสดง วันทองแต่งตัว
ที่มา ; https://www.youtube.com/watch?v=L6g6AvsWN3U